ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กระเบื้องเซรามิก"

จาก Watsadupedia
แถว 4: แถว 4:
 
<br>
 
<br>
 
     กระเบื้องเซรามิกวัตถุดิบหลักทำมาจาก ดิน หิน แร่ หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วนกัน ก็นำกระเบื้องเซรามิกไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปเผาตามอุณหภูมิที่ต้องการ แต่ยิ่งเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้กระเบื้องเซรามิกมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น
 
     กระเบื้องเซรามิกวัตถุดิบหลักทำมาจาก ดิน หิน แร่ หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วนกัน ก็นำกระเบื้องเซรามิกไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปเผาตามอุณหภูมิที่ต้องการ แต่ยิ่งเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้กระเบื้องเซรามิกมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น
 
+
    กระเบื้องเซรามิก มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กระเบื้องเซรามิกแบบเคลือบมากกว่า เพราะว่าเมื่อเวลาที่เราเคลือบแล้ว กระเบื้องเซรามิกจะไม่ค่อยดูดซึมซับน้ำ กระเบื้องเซรามิกส่วนใหญ่มักจะไม่ตัดขอบ  
กระเบื้องเซรามิก มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กระเบื้องเซรามิกแบบเคลือบมากกว่า เพราะว่าเมื่อเวลาที่เราเคลือบแล้ว กระเบื้องเซรามิกจะไม่ค่อยดูดซึมซับน้ำ กระเบื้องเซรามิกส่วนใหญ่มักจะไม่ตัดขอบ  
+
    กระเบื้องเซรามิกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ กระเบื้องกรุผนัง กับ กระเบื้องปูพื้น ข้อแตกต่างก็มีพอสมควร
 
 
กระเบื้องเซรามิกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ กระเบื้องกรุผนัง กับ กระเบื้องปูพื้น ข้อแตกต่างก็มีพอสมควร
 
  
 
กระเบื้องเซรามิกกรุผนัง ตัวเนื้อของกระเบื้องจะเป็นตัว Earthen Ware เป็นกระเบื้องที่มีเนื้อละเอียด แต่ไม่สามารถป้องกันการดูดซึมของน้ำได้ดีเท่าที่ควร และมีความแข็งแรงต่ำเนื่องจากยังเผาไม่ถึงจุดสุกตัว จึงทำให้แตกหักง่ายไม่เหมาะแก่การนำไปปูพื้น
 
กระเบื้องเซรามิกกรุผนัง ตัวเนื้อของกระเบื้องจะเป็นตัว Earthen Ware เป็นกระเบื้องที่มีเนื้อละเอียด แต่ไม่สามารถป้องกันการดูดซึมของน้ำได้ดีเท่าที่ควร และมีความแข็งแรงต่ำเนื่องจากยังเผาไม่ถึงจุดสุกตัว จึงทำให้แตกหักง่ายไม่เหมาะแก่การนำไปปูพื้น

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:46, 19 ตุลาคม 2563

ข้อมูลสินค้า

กระเบื้องเซรามิกเป็นอย่างไร

    กระเบื้องเซรามิกวัตถุดิบหลักทำมาจาก ดิน หิน แร่ หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วนกัน ก็นำกระเบื้องเซรามิกไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปเผาตามอุณหภูมิที่ต้องการ แต่ยิ่งเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้กระเบื้องเซรามิกมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น
    กระเบื้องเซรามิก มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กระเบื้องเซรามิกแบบเคลือบมากกว่า เพราะว่าเมื่อเวลาที่เราเคลือบแล้ว กระเบื้องเซรามิกจะไม่ค่อยดูดซึมซับน้ำ กระเบื้องเซรามิกส่วนใหญ่มักจะไม่ตัดขอบ 
    กระเบื้องเซรามิกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ กระเบื้องกรุผนัง กับ กระเบื้องปูพื้น ข้อแตกต่างก็มีพอสมควร

กระเบื้องเซรามิกกรุผนัง ตัวเนื้อของกระเบื้องจะเป็นตัว Earthen Ware เป็นกระเบื้องที่มีเนื้อละเอียด แต่ไม่สามารถป้องกันการดูดซึมของน้ำได้ดีเท่าที่ควร และมีความแข็งแรงต่ำเนื่องจากยังเผาไม่ถึงจุดสุกตัว จึงทำให้แตกหักง่ายไม่เหมาะแก่การนำไปปูพื้น

กระเบื้องเซรามิกปูพื้น ตัวเนื้อของกระเบื้องจะเป็นตัว Stone Ware ตัวกระเบื้องทำขึ้นจากเนื้อดินขาว ผสมกับหินและทราย ส่วนผสมมาผสมกัน ตากแดดให้แห้งและนำไปเผาที่อุณหภูมิสูงกว่าตัว Earthen Ware ก็จะได้เป็นกระเบื้องเซรามิกปูพื้น ผลิตภัณฑ์จะเป็นสีขาวซะส่วนใหญ่ กระเบื้องเซรามิกปูพื้นจะมีความทึบแสง การดูดซึมน้ำปานกลาง แต่กระเบื้องเซรามิกตัวนี้จะมีราคาสูง เนื่องจากการเผาที่อุณหภูมิสูงขึ้น จึงส่งผลให้ราคาสูงตาม

นอกจากนี้ กระเบื้องเซรามิกยังมีทั้งรูปแบบ สี และลวดลายให้เลือกอีกมากมาย และยังมีน้ำหนักเบา ราคาจับต้องได้ เพราะมีหลากหลายราคาตามวัสดุ ทุกอย่างล้วนแล้วขึ้นอยู่กับเนื้อดินและ ลวดลายของกระเบื้อง แต่ถ้าหากเป็นกระเบื้องที่ทำมาจากดินขาว ก็จะมีราคาสูงกว่าดินทั่วไป เนื่องจากกระเบื้องเซรามิกมีความแข็งแรงปานกลาง จึงนิยมนำมาปูภายในบ้าน ในอาคาร หรือสำนักงาน ที่ไม่ต้องมีคนสัญจรมากนัก เมื่อรู้ข้อมูลต่างๆแล้ว ก็อย่าลืมเลือกใช้กระเบื้องให้เหมาะสมกับแต่ละงานด้วย