ข้อกำหนดงานฝ้าเพดานภายในอาคาร “ระบบฝ้าเพดานยิปซัมดูดซับเสียง ฉาบเรียบ” เอสซีจี

ข้อกำหนดงานฝ้าเพดานภายในอาคาร “ระบบฝ้าเพดานยิปซัมดูดซับเสียง ฉาบเรียบ” เอสซีจี “Gypsum-Echobloc Concealed Ceiling System” SCG

1 ขอบเขตของงาน

งานฝ้าเพดานยิบซั่มบอร์ดตามที่ระบุในแบบก่อสร้างทั้งหมด ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามรายละเอียดที่ผู้ออกแบบกำหนดใน Specification, รายการประกอบแบบ โดยจัดเตรียมทำแบบประกอบการติดตั้ง SHOP DRAWING รวมถึงส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งต้องแสดงรายละเอียดการติดตั้ง การยึด และแสดงระยะต่าง ๆ โดยละเอียดให้ถูกต้องตามแบบก่อสร้าง เพื่อขอความเห็นชอบและตรวจสอบตามความต้องการของผู้ออกแบบก่อนที่จะทำการติดตั้ง

2 เอกสารประกอบแบบ

1. รายละเอียด Specification ของวัสดุ
2. Shop Drawing แสดงตำแหน่งวัสดุ และวิธีการติดตั้ง รายละเอียดผังพื้น, รูปด้าน ,รูปตัด และส่วนประกอบอื่นๆ
3. ผู้รับเหมาต้องจัดเตรียมชิ้นตัวอย่าง , ใบรับรองมาตรฐาน และผล test ของวัสดุ รวมทั้งจัดเตรียมทำตัวอย่างจริงที่โครงการระบุ หรือตามที่ผู้ออกแบบเห็นสมควร

3 วัสดุที่นำมาใช้งานต้องเป็นของใหม่ และได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ทั้งนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ออกแบบก่อนนำไปใช้งานตามที่กำหนด ประกอบด้วย

3.1 แผ่นยิปซัม

ให้ใช้แผ่นยิปซัมบอร์ดเจาะรูทะลุ ชนิดดูดซับเสียง รุ่น EchoBloc ตราช้าง ของ บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด ผลิตจากยิปซัมบริสุทธิ์ ด้านหลังแผ่นแนบสนิทด้วยแผ่น Glass mat มีค่า NRC 0.60-0.70 สามารถเลือกลายฉลุวงกลม ,สี่เหลี่ยม และลายเส้น ขนาด1200x2400มม. ขอบลาด ความหนาไม่น้อยกว่า 12 มม. ผ่านการทดสอบการดูดซับเสียงตามมาตรฐาน NFN20354 ร่วมกับมาตรฐาน ISO/DIS1 1654

3.2 โครงคร่าวโลหะ

สำหรับฝ้าเพดานยิปซัมฉาบเรียบ ให้ใช้รุ่น โปรลายน์ (Proline) ตราช้าง ของบริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด ประกอบด้วย โครงเคร่าโลหะ Proline ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน มอก. 863-2532 โดยผลิตจากเหล็กชุบสังกะสีด้วยกรรมวิธีการจุ่มร้อนตามมาตรฐาน (JIS3302-1987) ซึ่งมีชั้นเคลือบสังกะสีไม่น้อยกว่า 220 กรัมต่อตารางเมตร (เกรด Z22) ซึ่งมีความหนารวมชั้นเคลือบสังกะสีไม่น้อยกว่า 0.52 มม. ขนาดของโครงคร่าวต้องไม่น้อยกว่า 37x15x4000x0.52 มม.

3.2.2 อุปกรณ์ยึดโครงคร่าว ประกอบด้วย

1. ขอยึดโครง (คลิปล็อค) ผลิตจากเหล็กเคลือบสังกะสีกันสนิมตามมาตรฐาน มอก.50-2538 มีความหนารวมชั้นเคลือบไม่น้อยกว่า 0.8 มม.
2. ตัวต่อโครงผลิตจากเหล็กเคลือบสังกะสีกันสนิมตามมาตรฐาน มอก.50-2538 มีความหนารวมชั้นเคลือบไม่น้อยกว่า 0.5 มม.
3. ขอยึดโครง (คลิปล็อค) ใช้เพื่อเป็นตัวประกอบติดโครงคร่าวตัวบนล่าง และตัวต่อโครงใช้เป็นตัวต่อเพื่อให้ได้ความยาวตามที่ติดตั้ง

3.2.3 ชุดปรับระดับ ประกอบด้วย

1. ขอล็อคโครง
2. ลวดโลหะ เส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 4 มม.
3. สปริงปรับระดับ ผลิตจากเหล็กสแตนเลส ( Stainless Steel )
4. เหล็กฉากยึดท้องพื้นผลิตจากเหล็กชุบ Galvanized ซึ่งมีความหนาเหล็กไม่น้อยกว่า 1.5 มม.
5. พุกเหล็ก(EXPANSION BOLT)ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 4 มม. และเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก 6 มม.

3.3 อุปกรณ์อื่นๆ

3.3.1 ปูนฉาบรอยต่อยิปซัม

ให้ใช้รุ่นอีซี่พลาส 120 (EasyPlas120) ของบริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด และผ้าเทป ใช้สำหรับฉาบทับรอยต่อ ให้ผู้รับจ้างเสนอให้ผู้ออกแบบพิจารณาเห็นชอบก่อนการนำไปใช้งาน

3.3.2 ช่องเซอร์วิส

เลือกใช้ช่องเซอร์วิสสำเร็จรูป ZerveBoard ของบริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม(สระบุรี) จำกัด ที่ผ่านการ trim ขอบด้วยอลูมิเนียมเป็นลักษณะบังใบ เพื่อความแข็งแรงทนทานและง่ายต่อการเซอร์วิส

3.3.3 วัสดุเก็บเข้ามุมผลิตจากวัสดุประเภท พีวีซี Trimtex ของ บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม(สระบุรี) จำกัด เพื่อเก็บขอบมุมของฝ้าและผนังให้เรียบร้อยแข็งแรง ประกอบด้วย

1. คิ้วเข้ามุมเหลี่ยม (90° external corner bead) ตัวเก็บมุมภายนอกของฝ้าเพดานและฝาผนังแนวตรง
2. คิ้วเข้ามุมเหลี่ยม (90° external archway corner bead) ตัวเก็บมุมภายนอกของฝ้าเพดานและฝาผนังแนวโค้ง
3. คิ้วเข้ามุมรอยหยัก (Shadow bead) ใช้เชื่อมรอยต่อระหว่างฝ้าเพดานและฝาผนัง
4. คิ้วเข้ามุมตัวแอล (L bead) ใช้เชื่อมรอยต่อของยิปซัมและกรอบประตู – หน้าต่าง

4 ตัวอย่างวัสดุ

ผู้รับจ้างต้องจัดหาตัวอย่างวัสดุที่จะใช้แต่ละชนิดส่งให้ผู้ออกแบบ เพื่อขอความเห็นชอบและตรวจสอบตามความต้องการของผู้ออกแบบก่อนที่จะนำไปใช้งาน ตัวอย่างดังกล่าวให้รวมถึงวัสดุประกอบอย่างอื่นที่จำเป็นต้องใช้ด้วย รวมทั้งรายละเอียดประกอบตัวอย่าง (MANUFACTURE SPECIFICATION) ผู้รับจ้างต้องจัดหาตัวอย่างวัสดุที่จะใช้แต่ละชนิดไม่น้อยกว่า 2 ตัวอย่าง และส่งให้ผู้ออกแบบเพื่อขอความเห็นชอบและตรวจสอบตามความต้องการของผู้ออกแบบก่อนที่จะนำไปใช้งาน

5 การติดตั้ง

ผู้รับจ้างต้องจัดหาช่างฝีมือที่ดีมีความชำนาญ มีประสบการณ์ในการติดตั้ง ทุกส่วนที่ติดตั้งแล้วต้องได้ระดับและเส้นแนวตรง หรือลวดลายได้ฉากมีความประณีตเรียบร้อยมั่นคงแข็งแรง ตามที่ผู้ออกแบบกำหนดและตามกรรมวิธีมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิต ก่อนการติดตั้งให้มีการประสานงานกับผู้รับจ้างหลัก เพื่อตรวจสอบบริเวณสถานที่ที่เกี่ยวข้องให้สมบูรณ์เรียบร้อย ถ้ามีสิ่งบกพร่องให้แก้ไขก่อนการดำเนินการติดตั้ง ทั้งนี้ให้ยึดหลักวิธีการติดตั้งตามมาตรฐาน

5.1 การติดตั้งฝ้าเพดานฉาบเรียบ

1. หาระดับรอบห้อง แล้วยึดรางระดับโดยรอบด้วยด้วยพุกเหล็กหรือตะปูเกลียวทุกๆระยะ 30 ซม.
2. ยึดปลายด้านหนึ่งของชุดปรับระดับกับโครงสร้างบนของอาคารด้วยพุกเหล็กให้แน่น เว้นระยะห่างกันไม่เกิน 1.20 ม. ให้ได้แนวและเป็นระเบียบ
3. ปลายอีกด้านหนึ่งของชุดปรับระดับยึดกับโครงคร่าวบนให้แน่น และให้ได้ระดับตามที่ต้องการ
4. ยึดโครงคร่าวล่างให้ติดกับโครงคร่าวบนด้วยขอยึดโครง ให้แนวตั้งฉากกับโครงคร่าวบน โดยโครงคร่าวล่างจะห่างกันทุกระยะ 40 ซม. โดยมีโครงคร่าวบนหิ้วเอาไว้ทุก ๆ ระยะไม่เกิน 1.00 ม. ซึ่งโครงคร่าวบนแนวแรกและแนวสุดท้ายจะต้องห่างจากผนังห้องไม่เกิน 15 ซม.
5. ปรับระดับโครงฝ้าเพดานที่ชุดปรับระดับจนรอบห้อง แล้วจึงนำแผ่นยิปซัมชนิดขอบลาดยึดติดเข้ากับคร่าวล่างด้วยสกรู โดยติดแผ่นตามแนวขวางโครงคร่าวล่างด้วยสกรูยิงแผ่นบริเวณกลางแผ่นทุกๆ 30 ซม. และบริเวณของขอบแผ่นทุกๆ 20 ซม.
6. ฉาบรอยต่อระหว่างแผ่นยิปซัมด้วยผ้าเทปและปูนฉาบซึ่งจะต้องทำการฉาบทับ 3 รอบ
7. เมื่อรอยฉาบแห้งดีแล้วจึงขัดแต่งรอยฉาบด้วยกระดาษทรายแล้วจึงทำการทาสี

5.2 การตัดแผ่นยิบซั่มบอร์ด

5.2.1 การตัดด้วยเลื่อย

1. ใช้เลื่อยชนิดฟันละเอียด เลื่อยแผ่นยิบซั่มบอร์ด
2. ขัดแต่งรอยตัดให้เรียบด้วยกระดาษทรายหยาบ

5.2.2 การตัดด้วยคัตเตอร์

1. ใช้คัตเตอร์กรีดกระดาษด้านหน้าแผ่นให้ขาดตามแนวที่ต้องการ
2. หักแผ่นยิบซั่มตามรอยกรีด
3. ใช้คัตเตอร์กรีดกระดาษอีกด้านให้แผ่นหลุดจากกัน
4. ขัดแต่งรอยตัดให้เรียบด้วยกระดาษทรายหยาบ

5.3 การฉาบปิดรอยหัวตะปูเกลียวปล่อย

ให้ใช้ยิบซั่มปลาสเตอร์ที่ผสมแล้ว ปาดทับรอยหัวตะปู 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งผึ่งให้แห้งแล้วปาดทับ จากนั้นจึงขัดด้วยกระดาษทรายให้เรียบ ต้องไม่มีรอยเว้านูนเนื่องจากการฉาบ

5.4 การฉาบรอยต่อของแผ่นยิบซั่ม

5.4.1 การฉาบรอยต่อเรียบบนแผ่นยิบซั่มแบบขอบลาด (TAPERED EDGE)

1. ใช้เกรียงฉาบตักยิบซั่มปลาสเตอร์ที่ผสมแล้วปาดทับรอยต่อ แล้วปิดทับด้วยเทปผ้าตามแนว โดยให้กึ่งกลางเทปอยู่ตรงแนวรอยต่อ รีดเทปให้ติดกับแนวยิบซั่มปลาสเตอร์ที่ปาดไว้ให้แน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ให้รอยฉาบในขั้นตอนนี้มีความกว้างประมาณ 15 ซม.
2. เมื่อรอยฉาบในขั้นตอนที่ 1 แห้งดีแล้วจึงฉาบทับบอีกครั้งหนึ่งด้วยวิธีการเดียวกัน โดยฉาบให้เรียบเสมอผิวหน้าแผ่นให้รอยฉาบในขั้นตอนนี้มีความกว้างประมาณ 20 ซม.ทิ้งไว้แห้งประมาณ 1 ชม.
3. เมื่อรอยฉาบในขั้นตอนที่ 2 แห้งดีแล้วใช้สันเกรียงขูดผิวหน้ารอยต่อให้สะอาดและเรียบ แล้วฉาบทับแนวฉาบเดิมด้วยเกรียงหน้ากว้าง ให้รอยฉาบในขั้นตอนนี้มีความกว้างประมาณ 27.5 ซม.ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชม. แล้วใช้กระดาษทรายขัดแต่งให้เรียบร้อย ต้องไม่มีรอยเว้านูนเนื่องจากการฉาบ

5.4.2 การฉาบรอยต่อมุมภายในของผนังและระหว่างฝ้าเพดานกับผนัง

1. ใช้เหล็กโป๊วตักยิบซั่มปลาสเตอร์ที่ผสมแล้วปาดทับรอยต่อ แล้วปิดทับด้วยเทปผ้าตามแนว โดยให้กึ่งกลางเทปอยู่ตรงแนวรอยต่อ รีดเทปให้ติดกับแนวยิบซั่มปลาสเตอร์ที่ปาดไว้ให้แน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ให้รอยฉาบในขั้นตอนนี้มีความกว้างด้านละประมาณ 15 ซม.
2. ใช้เกรียงฉาบตักยิบซั่มปลาสเตอร์ เมื่อรอยฉาบในขั้นตอนที่ 1 แห้งดีแล้วจึงฉาบทับบอีกครั้งหนึ่งด้วยวิธีการเดียวกัน โดยฉาบให้เรียบเสมอผิวหน้าแผ่นให้รอยฉาบในขั้นตอนนี้มีความกว้างด้านละประมาณ 15 ซม.ทิ้งไว้แห้งประมาณ 1 ชม.ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชม. แล้วใช้กระดาษทรายขัดแต่งให้เรียบร้อย ต้องไม่มีรอยเว้านูนเนื่องจากการฉาบ

5.5 วิธีการติดตั้ง CORNER BEAD (อุปกรณ์ตกแต่งระบบผนังเข้ามุม)

1. ติด CORNER BEAD เข้าที่มุมผนังภายนอก ด้วย straple ทุกๆระยะ 10 ซม.ตามด้านที่เป็นรอยปรุตลอดความยาว bead ซึ่งจะต้องติดให้ได้แนวและระนาบดิ่ง
2. ปาดยิบซั่มปลาสเตอร์ให้เรียบ โดยฉาบไล่จากมุมผนังออกไปให้ได้ระดับเดียวกันแผ่นยิบซั่ม โดยใช้เกรียงฉาบจำนวน 3 รอบแล้วปล่อยให้แห้ง ประมาณ 2 - 3 ชม. หลังจากนั้นจึงขัดรอยฉาบให้เรียบด้วยกระดาษทรายละเอียด ต้องไม่มีรอยเว้านูนเนื่องจากการฉาบ

6 การซ่อมแซมแผ่นชำรุด

1. ตัดแผ่นยิบซั่มให้มีขนาดใหญ่กว่ารอยชำรุด โดยแต่งด้านแต่ละด้านให้มีมุมลาดเอียง 45 องศา จากด้านหน้าไปด้านหลัง
2. นำชิ้นซ่อมวางทาบไปที่รอยชำรุดแล้วขีดเส้นเป็นแนวไว้
3. ใช้คัตเตอร์ตัดตามแนวเส้นที่ขีดไว้ และขัดแต่งรอยตัดให้เอียง 45 องศา เพื่อที่จะรับชิ้นซ่อมและให้ชิ้นซ่อมต่ำกว่าแผ่นยิบซั่มเดิมประมาณ 1 มม.
4. ฉาบทับรอยชิ้นซ่อมด้วยกาวปลาสเตอร์อีก 2-3 ครั้ง ทุกครั้งที่ฉาบต้องทิ้งให้ แห้งสนิทเมื่อผิวฉาบเสมอ และสูงกว่าผิวแผ่นยิบซั่มเดิมเล็กน้อย จึงขัดแต่งและทาสี

7 การตรวจสอบ

1. เพื่อตรวจสอบคุณภาพวัสดุและวิธีการติดตั้งที่ถูกต้องของผู้รับเหมา ตามขั้นตอนและเวลาที่สถาปนิกกำหนด
2. จะต้องแจ้งสถาปนิกล่วงหน้า 1 สัปดาห์เมื่อโครงการหรือส่วนที่ต้องการพร้อมให้ตรวจสอบ
   

1. ส่วนที่ต้องผ่านการตรวจสอบงานที่เกี่ยวข้องกับงานฝ้ายิปซัมได้แก่
2. การติดตั้งที่ 80% ของงานไฟและระบบ
3. การติดตั้งแผ่นฉนวน, การตรวจสอบรอยรั่วของฝ้า จากระบบท่อน้ำต่างๆ
4. การติดตั้งระบบท่อแอร์ , การจ่ายแอร์
5. การติดตั้งโครงคร่าวและชุดแขวน
6. การติดตั้งแผ่นและการเก็บงาน

8 การทำความสะอาด

ผู้รับจ้างจะต้องทำความสะอาดส่วนที่ติดตั้งทุกแห่งหลังจากการติดตั้ง โดยปราศจากการเปรอะเปื้อนและตำหนิใดๆ ก่อนขอความเห็นชอบในการตรวจสอบและก่อนส่งมอบงานจากผู้ควบคุมงาน

9 การขนส่ง , โยกย้าย และเก็บรักษา

จะต้องจัดส่งเตรียมสินค้าที่บรรจุหีบห่อเรียบร้อยตามผู้ผลิต มีระบุรายละเอียดที่ตั้งของผู้ผลิตชัดเจน การจัดเก็บสินค้าภายในสถานที่ก่อสร้าง ให้หลีกเลี่ยงความชื้น,สิ่งสกปรก ปกป้องการเสียหายของผลิตภัณฑ์จากอากาศ, แสงแดดและสาเหตุอื่นๆ เพื่อป้องกันแผ่นยิปซัมและโครงคร่าวเสียหายก่อนการใช้งาน

10 เพิ่มเติม

watsadupedia เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับสเปค วัสดุก่อสร้าง รวมถึงของใช้ต่างๆที่เกี่ยวกับบ้าน และอาคาร สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เลือกสินค้า และ Live Chat ได้ที่ BeelieveSourcing.co.th